เมนู

วิชานาตีติ ขอถวายพระพร คือปัญหาที่ควรซักไซ้ไล่เลียงเสียก่อนแล้วจึงจะกล่าวแก้ เช่นถาม
ว่า บุคคลย่อมรู้แจ้งซึ่งอารมณ์ทั้งปวงด้วยจักขุแลหรือ ดังนี้ เรียกว่าปฏิปุจฉาพยากรณ์ปัญหา
เป็นปัญหาที่ต้องอนุโยคย้อนถามให้ได้ความแจ่มแจ้งเสียก่อน แล้วจึงกล่าวแก้พยากรณ์ต่อ
ภายหลัง กตโม ฐปนีโย ขอถวายพระพร ปัญหาเช่นไรเรียกว่า ฐปนียปัญหา สสฺสโต โลโกติ
ฐปนีโย ขอถวายพระพร คือปัญหาที่ถามถึงเหตุภายนอกพระศาสนา อันหาประโยชน์มิได้
ไม่ควรจะกล่าวแก้ เช่นถามว่า โลกเที่ยงหรือ โลกไม่เที่ยงหรือ โลกมีในระหว่างหรือ โลกมีใน
อากาศอันมิใช่ระหว่างหรือ โลกมีในระหว่างและโอกาสมิใช่ระหว่างหรือ โลกจะมีในระหว่างก็ใช่
ในโอกาสอันมิใช่ระหว่างก็มิใช่หรือ ชีวิตเป็นอย่างอื่นหรือ สรีระเป็นอย่างอื่นหรือ เบื้องหน้าแต่
นิพพานแล้ว พระตถาคตมีอยู่หรือ พระตถาคตไม่มีหรือ พระตถาคตมีหรือไม่มี พระตถาคตจะ
มีก็มิใช่ จะไม่มีก็มิใช่ เช่นนั้นหรือ ปัญหาทั้งหลายที่กล่าวมานี้แล เรียกว่าปฐนียปัญหา เป็น
ปัญหาควรงดเสีย ไม่ควรจะกล่าวแก้พยากรณ์ มหาราช ดูรานะบพิตรพระพราชสมภาร พระ
เถรเจ้าผู้มาลังฆบุตร ทูลถาม ฐปนียปัญหาดุจวิสัชนามานี้ สมเด็จพระชินสีห์จึงทรงงดเสียไม่กล่าว
แก้ ด้วยทรงเห็นว่า ถึงแม้จะกล่าวแก้ก็ไม่มีเหตุการณ์อันใดที่จะแสดง ปัญหานั้นเป็นอันหาผล
หาประโยชน์มิได้เลย ดูรานะบพิตรผู้ประเสริฐ ประการหนึ่งเล่า มหาราช ขอถวายพระพร
สมเด็จพระมุนินทรบรมโลกุตตมาจารย์ เมื่อไม่มีเหตุมีการณ์แล้ว พระองค์จะมีพระดำรัสนั้น
เป็นอันว่าหามิได้ ต่อเมื่อมีเหตุมีปัจจัยแล้ว พระองค์จึงมีพระดำรัสตรัสออกไป ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ ได้ทรงสดับดังนั้นก็สิ้นสงสัย มีพระทัยโสมนัสปรีดาตรัสว่า สาธุ
ภนฺเต
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาถูกต้องนักหนา โยมขอรับเอาไว้ดุจนัย
ที่พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนานั้นทุกประการในกาลบัดนี้
ฐปนียพยากรณปัญหา คำรบ 2 จบเพียงนี้

สัตตานัง มัจจุโนภายนปัญหา ที่ 3


พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสนผู้ปรีชา เอตํ วจนํ อันว่าคำนี้ ภควา อันสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงบุญ-
ราศี ผู้มีพระรัศมีแผ่ไปทั้งสามภพ มีพระพุทธฎีกาปรารภโปรดประทานไว้ว่า สพฺเพ สตฺตา
อันว่าสรรพสัตว์ทั้งปวงนั้น ตสนฺติ ย่อมสะดุ้งตกใจกลัวภัยแต่อาญา ภายนฺติ หนึ่งกลัวภัย